การเลือกวอลเปเปอร์

(1) กำหนดวอลเปเปอร์ทึ่ต้องการจากการวัดความสูงของแต่ละผนังห้อง ตั้งแต่พื้นจนถึงเพดานห้องและความยาวของห้องโดยใช้เทปวัด


– ถ้าผนังห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยม เราสามารถเพิ่มความยาว
– ถ้าผนังห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยม เราสามารถเพิ่มความยาวของผนังห้องได้ด้วยการคูณจำนวน โดยความสูงของผนังห้องนี้”คือพื้นที่ทั้งหมด”
– ที่ร้านขายวอลเปเปอร์จะแบ่งเก็บไว้เป็นม้วน จากการประเมินผนังห้องต้องซื้อเผื่อไว้หลายม้วน เพราะเมื่อเราติด
วอลเปเปอร์ไปกับผนังห้อง อาจจะใช้มากกว่าที่พื้นที่จริงที่เราคำนวณไว้ หรืออาจจะต้องซื้อแบบลักษณะพิเศษมาเพราะรูปแบบของผนังไม่เหมือนกัน

(2) เลือกชนิดที่เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวของผนังห้อง เพราะวอลเปเปอร์ติดผนังถูกผลิตออกมาในลักษณะหรือมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปจำนวนมาก ทั้งนี้การพิจารณาขึ้นอยู่กับสภาพของห้องด้วย ในการติดวอลเปเปอร์สำหรับบางคนอาจจะยากเกินไป แต่สำหรับบางคนก็อาจจะเป็นเรื่องง่าย
– วอลเปเปอร์ชนิดไวนิล เป็นชนิดที่พบมากที่สุด ง่ายต่อการติดและลอกออก ตัวลักษณะผิวของมันได้มาจากกระดาษ
ไวนิลซึ่งทนต่อความชื้น เหมาะสำหรับกับการติดไว้ในห้องน้ำหรือชั้นใต้ดินเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้วมักจะใช้กาว
ในการติดผนังห้องจึงเป็นเรื่องง่ายในการติดวอลเปเปอร์ด้วยตัวเอง
– วอลเปเปอร์ลายนูน เป็นชนิดที่มีพื้นผิวและลวดลายเยอะ ทำให้มันเหมาะกับการปกปิดผนังมีรอยแตกหรือไม่เรียบสวย นอกจากนี้การทาสียังง่ายกว่าการที่ต้องมานั่งติดกาว
– วอลเปเปอร์วิ่งทอ เป็นชนิดที่ใช้ยากมาก เพราะตอนทื่เราจะติดกับผนังนั้นต้องใช้กาวทาเป็นเวลานานมาก ซึ่งยากต่อการทำสวามสะอาด

(3) เลือกรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับห้องพัก เราสามารถเลือกรูปแบบ ลวดลายของวอลเปเปอร์ในรูปแบบที่ไม่ซ้ำกันได้ ถ้าต้องการจะซื้อวอลเปเปอร์ที่มีรูปแบบที่โดดเด่นเราต้องแน่ใจก่อนว่าจะดูแลรักษาได้ นอกจากนี้เรายังสามารถทำให้ห้องดูมีขนาดใหญ่โดยใช้วอลเปเปอร์ที่มีลวดลายได้
– ใช้รูปแบบแนวนอนเพื่อทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ถ้าเรามีลักษณะห้องที่สูงและแคบ สามารถทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้โดยใช้รูปแบบวอลเปเปอร์ในลักษณะแนวนอน อาจจะไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็สามารถช่วยได้เล็กน้อย แต่ถ้าใช้รูปแบบที่มี
ลวดลายในแนวนอนอาจจะให้มันดูแคบยิ่งขึ้น
– ใช้รูปแบบแนวตั้งเพื่อทำให้เพดานห้องดูสูงขึ้น ถ้าเรามีห้องที่มีเพดานต่ำ วอลเปเปอร์รูปแบบแนวตั้งช่วยพลางตาได้

(4) เลือกจัดวอลเปเปอร์ โดยทั่วไปแล้วถ้าเราต้องการติดวอลเปเปอร์ด้วยตัวเอง อาจจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการติดแล้ว เราสามารถลอก แถบกาวออกจากด้านหลังของตัวกระดาษ กดติดกับผนังให้แน่นและเท่าๆ กับบนผนัง
– Pre-pasted wallpaper จะคล้ายกับการติดด้วยตัวเอง ต้องเปิดที่หลังกระดาษมันจะมีน้ำ หรือตัวติดกับผนังให้
– Dryback wallpaper เราจำเป็นต้องซื้อกาวมาติดวอลเปเปอร์ที่ใช้ในการติดมาโดยเฉพาะ วอลเปเปอร์ประเภทนี้มักซับซ้อนและมีราคาแพง และเป็นเรื่องยากมากๆ สำหรับการติดวอลเปเปอร์ประเภทนี้คนเดียว

Share

, , , ,

Share